ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นในวันจันทร์ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจากจีนและญี่ปุ่น แล้วความหวังเกี่ยวกับโอเปกและพันธมิตรที่ยังคงลดปริมาณการผลิตอย่างต่อเนื่อง ได้ช่วยคลายความกังวลต่อแนวโน้มความต้องการพลังงาน
รายงานที่ออกมาเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด19 มีส่วนช่วยให้น้ำมันมีอัตราการเติบโตสูงขึ้น
ปิดท้ายด้วยการประกาศของ Pfizer เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกี่ยวกับการทดลองวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรน่าระยะที่ 3 ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าได้ผลมากกว่า 90% ทาง Moderna ประกาศเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าการทดลองใช้วัคซีนในระยะสุดท้ายได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพถึง 94.5% ในการป้องกันโรค
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าของ West Texas Intermediate ในเดือนธันวาคมปิดที่ 1.21 ดอลลาร์หรือประมาณ 3% ที่ระดับ 41.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าจากเบรนท์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 1.00 ดอลลาร์หรือ 2.4% ที่ 43.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข้อมูลจากจีนแสดงให้เห็นว่า ผลผลิตของโรงงานในเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ในเดือนตุลาคม และการเติบโตของยอดการค้าปลีกเร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งแสดงถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในวงกว้างจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า
นอกจากนั้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่สาม โดยฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการทิ้งตัวลงต่ำหลังสงครามครั้งใหญ่ที่สุด
องค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและประเทศพันธมิตร (OPEC +) มีกำหนดจะออกมาในวันอังคารนี้ และมีแนวโน้มว่าพันธมิตรจะแนะนำให้มีการเปลี่ยนโควต้าการผลิต พอรัฐมนตรีทั้งหมดประชุมกันในวันที่ 30 เดือนพฤศจิกายนและ 1 เดือนธันวาคม
จนถึงตอนนี้ OPEC + กำลังลดการผลิตลงประมาณ 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยต้องปฏิบัติตามให้ได้ถึง 101 เปอร์เซ็นต์ในเดือนตุลาคม