สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าปิดตัวลงเล็กน้อยในวันพุธ หลังจากที่เคลื่อนตัวไปในวงแคบเนื่องจากเทรดเดอร์ยังคงติดตามข่าวเกี่ยวกับโรคระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่าและสรุปข้อมูลอัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับวัคซีนโควิท19 ที่อาจใช้การได้จริง
ความคืบหน้าทางการเมืองที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนซึ่งได้เข้ามาดำรงตำแหน่งแล้ว เตรียมตัวย้ายเข้าไปทำงานในทำเนียบขาวกำลังเป็นที่จับตามองเช่นกัน
เทรดเดอร์ที่รับข้อมูลเศรษฐกิจมาแล้วจำนวนหนึ่งที่ออกมาในวันนี้ ต่างกำลังรอคอยการนำเสนอผลการประชุมนโยบายการเงินล่าสุดของธนาคารกลางแห่งสหรัฐ
เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า ในช่วงที่มีความคาดหวังของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไปหนุนทองคำขึ้นเล็กน้อย
ดัชนีเงินดอลลาร์ซึ่งลงไปอยู่ที่ 91.93 ได้ฟื้นตัวขึ้นบางส่วนจากที่เคยร่วงลง แต่ยังคงอยู่ใต้ 0.2% ที่ระดับ 92.05
สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าสำหรับเดือนธันวาคมปิดตัวที่ 0.90 ดอลลาร์ที่ระดับ 1,805.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวไประหว่าง 1,79860 ดอลลาร์และ 1,816,30 ดอลลาร์ในช่วงนี้
สัญญาซื้อขายเงินล่วงหน้าสำหรับเดือนธันวาคมจบตัวสูงขึ้น 0.062 ดอลลาร์ที่ระดับ 23.362 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่สัญญาซื้อขายทองแดงล่วงหน้าสำหรับเดือนธันวาคมร่วงลงที่ 3.3095 ดอลลาร์ต่อปอนด์โดยทำเงินขึ้นมา 0.0100 ดอลลาร์
ข้อมูลที่ออกมาจากกระทรวงแรงงานแสดงให้เห็นว่าการขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐเพิ่มขึ้นฉับพลันในสัปดาห์ของรอบวันที่ 21 เดือนพฤศจิกายน มันเพิ่มขึ้นเป็น 778,000 ราย ซึ่งเพิ่มมา 30,000 รายจากระดับที่ปรับตัวของสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 748,000 ราย นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงเหลืออยู่ที่ 730,000 รายจาก 742,000 รายจากการรายงานในสัปดาห์ก่อน
รายงานจากกระทรวงพาณิชย์แสดงยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นเป็น 1.3% ในเดือนตุลาคมหลังจากพุ่งขึ้นไปถึง 2.1% ในเดือนกันยายน นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าคำสั่งซื้อสินค้าคงทนจะเพิ่มขึ้นถึง 0.9%
รายงานจากกระทรวงพาณิชย์อีกฉบับแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศพุ่งสูงขึ้นไปถึง 33.1% ในไตรมาสที่สาม ตามที่ปรับจากประมาณการเบื้องต้น
รายได้ส่วนบุคคลในสหรัฐลด 0.7% ในเดือนตุลาคมหลังจากปรับตัวสูงขึ้นจากที่เคยปรับตัวลง 0.7% ในเดือนกันยายน นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่ารายได้ส่วนบุคคลจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับราบงานก่อนหน้าที่จากเดิมมีการเพิ่มขึ้น 0.9%
ขณะเดียวกันรายงานระบุว่าการใช้จ่ายส่วนตัวเพิ่มขึ้นไป 0.5% ในเดือนตุลาคมหลังจากที่หนุนขึ้น 1.2% ในเดือนกันยายน
แต่รายงานอีกฉบับจากส่วนเดียวกันแสดงว่ายอดการขายบ้านหลังใหม่ในสหรัฐลดลงอย่างฉับพลันเป็น 0.3% คิดเป็นอัตราต่อปี 999,000 ในเดือนตุลาคมหลังจากปรับตัวขึ้นมา 0.1% ไปยังอัตราใหม่ที่ 1.002 ล้านในเดือนกันยายน
มหาวิทยาลัยมิชิแกนได้ออกมาข้อมูลชุดใหม่มาในวันพุธ ที่แสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐลดลงไปมากกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อยในเดือนพฤศจิกายน พร้อมดับดัชนีได้อยู่ที่ 76.9 โดยลดลงจากข้อมูลเบื้องต้นที่ระดับ 77.0